แชร์

5 จุดเช็ก รู้ทันก่อนสายพานเสีย

อัพเดทล่าสุด: 22 พ.ย. 2025

48 ผู้เข้าชม

1.สายพานจมร่อง (V-belt จมลึกเกินไป)
ถ้าสายพานจมไปในร่องลึกผิดปกติ แสดงว่าสายพานเริ่มบางหรือสึกจนรูปทรงไม่เหมือนเดิมแล้ว ส่งผลให้แรงส่งถ่ายไม่เต็มที่ ทำให้เกิดเสียงหวีด เสียดสีแรงขึ้น และกินกำลังมากขึ้นควรเปลี่ยนสายพานใหม่เพื่อให้การส่งกำลังกลับมามีประสิทธิภาพ

2. สายพานกรอบ สึก แข็งตัว
หากจับแล้วรู้สึกว่าสายพานแข็ง แตกเป็นเส้น ๆ หรือมีสภาพกรอบ นั่นคือสัญญาณว่าสายพานหมดอายุการใช้งาน อาจเกิดจากความร้อนสะสม น้ำมันเครื่องกระเด็นโดน หรือใช้งานมานาน
สายพานที่กรอบมีโอกาส ขาดกลางงาน สูงมาก ควรเปลี่ยนทันที

3. หลังสายพานแตก มีรอยไหม้หรือเปลี่ยนสี
ด้านหลังของสายพานเป็นจุดที่บอกสุขภาพได้ดี หากพบว่า มีรอยแตกเป็นเส้น / มีรอยไหม้ / สีเข้มผิดปกติเหมือนโดนความร้อน
อาจเกิดจากการเสียดสีแรงเกินไป ลูกรอกเบี้ยว หรือตั้งความตึงสายพานไม่ถูกต้อง หากปล่อยไว้อาจทำให้สายพานไหม้และขาดเร็ว ต้องรีบตรวจสอบและเปลี่ยนใหม่

4. สายพานท้องลาย หรือท้องแตก
ใต้ท้องสายพานคือส่วนที่สัมผัสกับลูกรอก หากเห็นลายแตกหรือเป็นเส้น ๆ แสดงว่ายางชั้นล่างกำลังหลุดลอกหากท้องสายพานแตกมาก จะทำให้การยึดเกาะลดลง เกิดการลื่น สะบัดแรง และส่งกำลังไม่เต็มที่ เป็นสัญญาณเตือนว่าควรเปลี่ยนทันที

5. สายพานฟันหลุด (สำหรับสายพานฟัน/ร่องลึก)
สายพานประเภทฟัน หากมีฟันหลุดออกแม้เพียง 12 ซี่ ก็เป็นสัญญาณว่าโครงสร้างเสื่อมหรือโดนแรงดึงมากเกินไปฟันที่หลุดจะทำให้สายพานจับลูกรอกไม่เสถียร ทำให้กระตุก สะบัด หรือเสียงดังผิดปกติ และอาจขาดกลางงานอย่างฉับพลัน

ทำไมต้องเช็กสายพานก่อนลงงานจริง
- ลดความเสี่ยงรถเกี่ยวหยุดงานกลางทุ่ง
- ยืดอายุการใช้งานลูกรอกและระบบส่งกำลัง
- ประหยัดค่าใช้จ่ายซ่อมใหญ่
- ลดโอกาสสายพานขาดแบบไม่ทันตั้งตัว
- ทำให้การเก็บเกี่ยวลื่นไหล ไม่สะดุด
- การดูแลสายพานเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ช่วยยืดอายุเครื่องจักรและประหยัดต้นทุนได้มาก

สรุป: เช็กให้ชัวร์ก่อนลงงานทุกครั้ง
การตรวจสายพานตาม 5 ข้อนี้ใช้เวลาไม่นาน แต่ช่วยป้องกันปัญหาใหญ่ได้จริง หากพบอาการผิดปกติควรเปลี่ยนสายพานคุณภาพดีจากร้านที่เชื่อถือได้ เพื่อความปลอดภัยและความมั่นใจตลอดการทำงาน

ฟาร์มเทค ผู้ช่วยเกษตรกรมืออาชีพ เพื่อนเเท้ช่างซ่อม